วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553

คุณปัญญา WORK !!! Point อีกแล้วครับ ... กับ SME ตีแตก

ล้มแล้วลุก ดับแล้วเกิด เมื่อถึงวันที่รายการหนึ่งผ่านจุดที่ผู้ชมนิยมสูงสุดไปแล้ว ผู้ผลิตรายการมืออาชีพ ย่อมต้องหาสิ่งใหม่ๆ มานำเสนอ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ และการติดตามของผู้ชมอีกครั้ง และที่เหนือไปกว่านั้น ผู้ผลิตรายการชั้นดี ย่อมต้องให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ สาระความรู้ประดับสมองควบไปกับความบังเทิงภายในบ้านด้วย

ขณะนี้ผมกำลังชม รายการ SME ตีแตก รายการใหม่ล่าสุดของเวิร์คพ้อยท์ ที่ออกอากาศทางช่อง 5 เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ดำเนินรายการโดยคุณปัญญา นิรันดร์กุล ด้วยตัวเอง ชมแล้วต้องขอมาบอกต่อด้วยความชื่นชมครับ

รูปแบบรายการที่เอาบรรดานักธุรกิจ SME คลื่นลูกใหม่ มาพรีเซ้นท์การดำเนินธุรกิจของตัวเอง ทั้งความเป็นมาเป็นไป จุดแข็งจุดอ่อน การพัฒนา และขยายกิจการ ให้ผู้ชมและคณะกรรมการฟัง ซึ่งตัวคณะกรรมการก็เป็นจุดเด่น ที่มีสามคน โดยหนึ่งในนั้นเป็นคนที่ทำธุรกิจคล้ายกันกับผู้ร่วมรายการ ครั้งแรกนี้ เอาเจ้าของปังเว่ยเฮ่ย ขายขนมปังจนมีร้าน 8 สาขา คิดจะขยายกิจการต่อ และมีคุณมนต์ เจ้าของมนต์นมสด ร่วมเป็นคณะกรรมการ ... ไอเดียเจ๋งดีครับ ผมชอบ

ดูเหมือนจะเป็นจุดขาย และ ความถนัดของเวิร์คพ้อยท์ไปแล้วที่จะประสานเอา สาระ และความรู้ มาไว้ในรายการเดียว ที่ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเรียกร้องหารายการแบบนี้ยามดึกแบบนี้ ขอให้มีประทับช่องทีวีเมืองไทยไว้บ้าง เพราะมีคนเบื่อรายการโชว์ดาราในสังกัดเต็มทีแล้ว

ยิ่งเป็นคืนวันอาทิตย์ ที่มีพิธีกรชื่อดังขวัญใจผม แต่พักหลังเอาแต่พาดาราเที่ยว หรือไม่ก็เที่ยวบ้านดารา เที่ยวกองถ่าย จนแฟนคลับอย่างผมเริ่มรู้สึกเอียนเต็มที แถมยังเอามุขที่เรียลลิตี้เกาหลีชอบใช้มาเลียนแบบอีก ผมอยากบอกพี่พิธีกรคนนี้ด้วยความเคารพว่า ช่วยทำให้มันสร้างสรรค์กว่านี้ซักหน่อยได้มั้ยครับ จริงอยู่ว่าเป็นรายการเน้นบันเทิง เน้นโชว์ดารา แต่ก็ทำให้มันสร้างสรรค์กว่านี้ได้ใช่มั้ยครับ ยังติดตามอยู่เสมอนะครับ

กลับมาที่คุณปัญญาดีกว่า แน่นอนว่า ตัวรายการดีก็จริง แต่ก็อาจจะมีบางท่านที่ก็ไม่ได้ชื่นชอบลีลาคุณปัญญาซักเท่าไหร่ อันนี้ก็ต้องบอกว่า ต่างคนต่างก็มีลีลาการทำรายการแตกต่างกันออกไป นานๆ ดูคุณปัญญาทีก็สนุกตื่นเต้นดีเหมือนกันครับ และอยากให้กำลังใจให้ทำสิ่งดีๆแบบนี้ต่อไป

... ดูจนถึงช่วงสุดท้าย ปรากฎว่า สิ่งที่เจ้าของปังเว่ยเฮ่ย นำเสนอการเพิ่มสาขาและยอดขาย ไม่โดนใจกรรมการนัก กรรมการตัดสินว่า ตีไม่แตก ปังเว่ยเฮ่ยไม่ได้รางวัล แต่ได้โฆษณาแบรนด์เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม คนดูได้ความรู้ แง่มุมทางธุรกิจ คุ้มทั้งคนผลิตรายการ ทั้งคนร่วมรายการ ทั้งคนดู คุ้ม คุ้ม คุ้ม ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น