วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

Future Park บางแค ... ความเปลี่ยนแปลง ความเปลี่ยนไป




หากบ้านใครอยู่แถวบางแค หรือว่าอยู่โซนทางฝั่งธน คงพอจะรู้จักหรือเคยผ่านห้างแห่งนี้ ครั้งหนึ่งถ้าย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เคยคึกคักมากในระดับที่ว่า ใครจะมาดูหนังในโรงที่ทันสมัยต้องมาที่ บางแค10 ( เป็นชื่อโรงเครืออีจีวีในยุคแรก ที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงซีนีเพล็กซ์คือมีหลายๆโรงในที่เดียวกัน ฉายได้พร้อมกันหลายเรื่อง เป็นแห่งแรกๆของประเทศนี้ ) ที่นับว่าอินเทรนด์มากๆเวลานั้น เพราะโรงอื่นๆ ที่มีขณะนั้นมักจะเป็นโรงหนังใหญ่ๆ สภาพเก่าๆ แม้แถวสยามที่เป็นแหล่งรวมวัยรุ่นเองก็ยังไม่มีแบบนี้ ยังเป็นสไตล์โรงใหญ่แบบสกาล่าอยู่

ด้วยว่ามีจุดขายโดดเด่นมากขณะนั้น กิจการอื่นๆ ที่อยู่ในฟิวเจอร์ปาร์คบางแคด้วยกันก็พลอยดีไปด้วย ผมยังจำได้ว่าตอนนั้นฟิวเจอร์ปาร์คบางแค มีทั้งเยาฮัน โรบินสัน ท็อปส์ซุปเปอร์มาเก็ต รวมอยู่ในที่เดียวกัน ร้านเล็กๆ ในพลาซ่าก็พลอยคึกคักไปด้วย ศูนย์อาหารมีถึง 2 โซน ทั้งหน้าท็อปส์และชั้นบนก่อนขึ้นไปโรงหนัง


แถมยังมีเครื่องเล่นประมาณรถไฟเหาะ ชิงช้าสวรรค์ ( ที่ทุกวันนี้โครงสร้างชิงช้าเก่าๆ ยังตั้งเป็นสัญลักษณ์ให้เห็นฟิวเจอร์จากไกลๆได้ ) เป็นแหล่งรวมทั้งวัยรุ่นและสมาชิกในครอบครัวของคนแถวฝั่งธนอยู่นับสิบปี

แต่เมื่อวันเวลาผ่านเลย สภาพของฟิวเจอร์ปาร์คบางแคก็เปลี่ยนไป ให้นึกถึงความไม่เที่ยงของทุกๆสิ่งบนโลก ปัจจัยหนึ่งที่ชัดเจนมากๆ คือการเกิดขึ้นของห้างใหม่ๆ ทั้งโลตัสบางแค ที่แย่งส่วนแบ่งแม่บ้านไปเยอะ แต่ที่ส่งผลมากที่สุดน่าจะเป็นเดอะมอลล์บางแคที่นอกจากจะบริหารดีกว่าแล้ว ยังอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดีกว่า จากเมื่อก่อนที่เหมือนจะไกลกว่าฟิวเจอร์ออกไป แต่เมื่อเมืองขยาย การคมนาคมสะดวก หัวมุมวงแหวนกาญจนาภิเษก ตัดกับเพชรเกษม จึงเป็นทำเลที่สุดยอดที่สุดแห่งหนึ่งในย่านฝั่นธนบุรี


ทุกอย่างเป็นไปตามสัจธรรม บางแค10 เริ่มเสื่อมความนิยม เพราะห้างใหม่ๆที่ไหนก็มีโรงหนังแบบนี้ทั้งนั้นแล้ว ตัวอีจีวีก็มีอันต้องไปรวมกับเมเจอร์ เยาฮันเป็นรายแรกที่ต้องอำลาฟิวเจอร์ไป ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ตเองก็ถูกเปลี่ยนมือ และต้องมีอันย้ายออกไป โรบินสันก็โดนเทคโอเวอร์ด้วยเหมือนกัน ยื้อจนเป็นรายสุดท้ายที่ปิดตัวลง ยังไม่รวมร้านรวงเล็กๆอีกมากที่ทนสภาพไม่ไหว ปิดไปจนตอนนี้พื้นที่ใช้งานเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งแล้ว

มีความพยายามที่จะทำให้กลับมาคึกคักอยู่บ้าง ด้วยการเอาโซนเยาฮันมาทำใหม่เป็นศูนย์ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มีไอทีซิตี้เป็นร้านหลัก แต่ผมก็ว่ายังไม่พอที่จะดึงคนมาเดินเท่าไร ผ่านไปแต่ละครั้ง แทบจะนับคนเดินได้ ตอนเย็นๆค่ำๆก็มักจะเปลี่ยนลานด้านหน้าโล่งเป็นตลาดนัด อันนี้ยังพอดึงคนที่ใช้เส้นทางนี้กลับบ้านแวะมาซื้อของกินของใช้ได้บ้าง

ที่เห็นว่าน่าจะยังพออยู่ได้ก็น่าจะเป็นคาร์ฟูร์ที่เหมาพื้นที่เยาฮันเก่าชั้น 1 กับชั้นใต้ดิน ยังเห็นว่าคึกคักอยู่ กับซีเอ็ด ที่ยังอยู่ตั้งแต่เปิดแรกๆ

อยากบันทึกเรื่องนี้เอาไว้ เพราะรู้สึกว่าอีกไม่นานคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่ๆ เพราะจริงๆแล้วพื้นที่เองก็ยังนับว่ามีศักยภาพ หากได้ห้างใหญ่เข้ามาบริหาร ปรับปรุงใหม่ หรือจะสร้างใหม่ทั้งหมด เป็นคอนโดด้านบน ด้านล่างเป็นห้าง ก็เหมาะอยู่ไม่น้อย ในฐานะคนที่อยู่แถวนี้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงครับ ทิ้งไว้แบบนี้นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังทำให้ทำเลแถวนี้ดูไม่คึกคักตามไปด้วย

คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วใช่มั้ยที่จะได้กินข้าวที่ศูนย์อาหารแห่งนี้ หลังจากที่แม่ค้าข้าวมันไก่บอกกับผมว่า กำลังจะปิดร้านแล้ว โซนฟูดเซ็นเตอร์ด้านบนนี้ก็จะยุบไป ยังไม่ทราบว่าทางห้างจะเอาไปทำอะไรต่อ หรือจะปิดไปเฉยๆ

ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับปรุงคงกลายเป็นห้างร้างแหงๆ

สวยซะให้สะใจ ... เจ้าหญิงยุนอึนเฮ ใน My Fair lady


แม้จะรับบทบาทที่แตกต่างกันมาหลายเรื่อง หลายลุค ทั้งทอมบอย ทั้งสาวบ้านไร่ แต่ไม่ว่าจะอยู่บทบาทไหนเธอคนนี้ก็จะมีความเป็นตัวของตัวเองซ่อนอยู่เสมอ แอบโก๊ะแอบขำ และขี้โวยวายสไตล์องค์หญิงยุนอึนเฮเค้าล่ะ

หลังจากได้แผ่นเรื่อง My Fair lady เห็นปกก็พอรู้แล้วว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร หนีไม่พ้นฝ่ายหญิงผู้สูงศักดิ์ มีอันต้องมาอยู่บ้านเดียวกับชายยาจก ( อีกแล้ว ) และก็มีเรื่องกวนใจ จิกกัดกันทุกวัน หยอกเย้ากันไป สุดท้ายก็ไม่แคล้วคลาด น้องอึนเฮรับบทหลานสาวทายาทมหาเศรษฐี เลยสวยไม่มียั้ง บทคุณหนูเอาแต่ใจเรื่องนี้ ดูไปคล้ายเอฟ4 ซะนั่น

คงไม่ต้องหาสาระอะไรจากซีรี่ย์แนวนี้เท่าไรครับ ดูเอาสนุกๆไป กับพระเอกนางเอกเกาหลี ไปแค่นั้น ไม่รู้ว่ามุกแบบนี้ซีรีส์เกาหลีจะใช้ไปได้อีกซักกี่เรื่อง ต่อให้พระนางหน้าตาดีขนาดไหนแต่เดาเรื่องได้หมดตั้งแต่ดูตอนแรกคงไม่ไหวเหมือนกัน

ยอมให้น้องอึนเฮอีกครั้งเดียวนะ